วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนประจำวันพฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน 2559 (เรียนชดเชย)

Lesson 9




 Knowledge:



โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program)

  • แผน IEP
    1. แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
    2. เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
    3. ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
    4. โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก

    • การเขียนแผน IEP
    1. คัดแยกเด็กพิเศษ
    2. ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
    3. ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะต้องเริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด 
    4. สามารถทำอะไรได้  / เด็กไม่สามารถทำอะไรได้
    5. แล้วจึงเริ่มเขียนแผน IEP

    • IEP ประกอบด้วย
    1. ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
    2. ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
    3. การระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
    4. เป้าหมายระยะยาวประจำปี / ระยะสั้น
    5. ระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอน และคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน
    6. วิธีการประเมินผล

      ประโยชน์ต่อเด็ก


      • ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน
      • ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน
      • ได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
      • ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
      ประโยชน์ต่อครู





      • เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
      • เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะกับเด็ก
      • ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
      • เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
      • ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
      ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง



      • ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
      • ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
      • เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดระหว่างบ้านกับโรงเรียน
      ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล

         

      • การรวบรวมข้อมูล เช่น รายงานทางการแพทย์  รายงานการประเมินด้านต่างๆ บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง

      • การจัดทำแผน  ได้แก่  ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง   กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น  กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม   จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

      • การใช้แผน
      1. แผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
      2. นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
      3. แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
      4. จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
      5. ต้องมีการสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถ โดยคำนึงถึง
      • ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
      • ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
      • อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก

      • การประเมินผล 
      โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
      ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล

      ** การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม
      อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน**


      การจัดทำ IEP






      ทำกิจกรรมวาดวงกลม เพื่อทายลักษณะนิสัย แล้วนำไปประกอบเป็นต้นไม้ แสดงถึงความรัก สามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างเพื่อนในห้องเรียน







      หมายเหตุ

      เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน จึงได้มีการมีแจกรางวัลเด็กดีให้กับนักศึกษาที่เข้าเรียนครบ ตรงต่อเวลาในการเรียน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปีที่ข้าพเจ้าได้รับรางวัลเด็กดีอีกครั้ง










      Apply:   


      Evaluation: 

        Teacher :  

      เข้าสอนตรงเวลา ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย

       Friends:   

      แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา


       Self:  

      เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีการจดบันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน

      บันทึกการเรียนประจำวันศุกร์ ที่ 22 เมษายน 2559

      Lesson 8




       Knowledge:


      การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรม เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ






      1. เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน 
      2. ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด  
      3. เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)

      การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา

      • เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด 
      • เกิดผลดีในระยะยาว 
      • เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียงทักษะทางวิชาการ
      • แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล 
      •     (Individualized Education Program; IEP)
      • โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน


      การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
      • การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน (Activity of Daily Living Training)
      • การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
      • การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)

      การบำบัดทางเลือก



    1. การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
    2. ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
    3. ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
    4. การฝังเข็ม (Acupuncture)
    5. การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)




    6. การสื่อความหมายทดแทน (Augmentative and Alternative Communication ; AAC)



    7. การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies) 
    8. โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS) 
    9. เครื่องโอภา (Communication Devices) 
    10. โปรแกรมปราศรัย



    11. Picture Exchange Communication System (PECS)













      บทบาทของครู




      1.    ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
      2. ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
      3. ให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
      4. ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง 

















      การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ



      • ทักษะทางสังคม







      • เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการพ่อแม่
      • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข


      กิจกรรมการเล่น






      • การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
      • เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
      • ในช่วงแรกๆ เด็กจะไม่มองเด็กคนอื่นเป็นเพื่อน  แต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสำรวจ สัมผัส ผลัก ดึง



      การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง


      1. วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
      2. คำนึงถึงเด็กทุกๆคน
      3. ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่มเล็กๆ 2-4 คน
      4. เด็กปกติทำหน้าที่เหมือน “ครู” ให้เด็กพิเศษ



      ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น






      1. อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
      2. ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
      3. ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
      4. เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
      5. ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม

        • ทักษะภาษา
        การวัดความสามารถทางภาษา
        • เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
        • ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
        • ถามหาสิ่งต่างๆไหม
        • บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
        • ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
        การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่


        • ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
        • ห้ามบอกเด็กว่า  “พูดช้าๆ”   “ตามสบาย”   “คิดก่อนพูด”
        • อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
        • อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
        • ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
        • เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน








        ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย







      1. การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา
      2. ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด
      3. ให้เวลาเด็กได้พูด
      4. คอยให้เด็กตอบ (ชี้แนะหากจำเป็น)
      5. เป็นผู้ฟังที่ดีและโตต้อบอย่างฉับไว (ครูไม่พูดมากเกินไป)
      6. เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว










          • ทักษะการช่วยเหลือตนเอง

          การสร้างความอิสระ










        • เด็กอยากช่วยเหลือตนเอง
        • อยากทำงานตามความสามารถ
        • เด็กเลียนแบบการช่วยเหลือตนเองจากเพื่อน เด็กที่โตกว่า และผู้ใหญ่


          • หัดให้เด็กทำเอง



          • ไม่ช่วยเหลือเกินความจำเป็น (ใจแข็ง)
          • ผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไป
          • ทำให้แม้กระทั่งสิ่งที่เด็กสามารถทำได้เองหากให้เวลาเขาทำ
          • “ หนูทำช้า ”  “ หนูยังทำไม่ได้ ” 



            • จะช่วยเมื่อไหร่





              1. เด็กก็มีบางวันที่ไม่อยากทำอะไร , หงุดหงิด , เบื่อ , ไม่ค่อยสบาย
              2. หลายครั้งเด็กจะขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว
              3. เด็กรู้สึกว่ายังมีผู้ใหญ่ที่พึ่งได้ แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือเฉพาะสิ่งที่เด็กต้องการ
              4. มักช่วยเด็กในช่วงกิจกรรม

                การควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก
                • การกรอกน้ำ ตวงน้ำ
                • ต่อบล็อก
                • ศิลปะ
                • มุมบ้าน
                • ช่วยเหลือตนเอง


                ตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับเด็กพิเศษ



              1. ลูกปัดไม้ขนาดใหญ่
              2. รูปต่อที่มีจำนวนชิ้นไม่มาก








                • การวางแผนการเตรียมพื้นฐานทางวิชาการ




                    




                  1. จัดกลุ่มเด็ก
                  2. เริ่มต้นเรียนรู้โดยใช้ช่วงเวลาสั้นๆ
                  3. ให้งานเด็กแต่ละคนอย่างชัดเจนว่าต้องทำที่ไหน
                  4. ติดชื่อเด็กตามที่นั่ง
                  5. ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
                  6. บันทึกว่าเด็กชอบอะไรที่สุด
                  7. รู้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนงาน
                  8. มีอุปกรณ์ไว้สับเปลี่ยนใกล้มือ
                  9. เตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนเด็กมาถึง




                  Apply:   


                  Evaluation: 

                    Teacher :  

                  เข้าสอนตรงเวลา ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย

                   Friends:   

                  แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา


                   Self:  

                  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีการจดบันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน





                  วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

                  บันทึกการเรียนประจำวันศุกร์ ที่ 1 เมษายน 2559

                  Lesson 7



                   Knowledge:

                  • การจัดประสบการณ์ การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย








                  • ทำกิจกรรมวาดดอกบัว





                       ซึ่งกิจกรรมนี้เปรียบเสมือนการทดสอบว่า ถ้าเราเป็นครูเราจะมองเด็กอย่างไร ระหว่างจะมองเด็กด้วยสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เด็กเป็นจริงๆ หรือจะมองแบบผ่านๆแล้วใช้การเติมแต่งเพิ่มเติมเข้าไปว่าเด็กเป็นอย่างไรซึ่งบางครั้งก็อาจจะเกินความเป็นจริง



                  Apply:   



                  Evaluation: 


                    Teacher :  


                  เข้าสอนตรงเวลา ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ชัดเจนพร้อมทั้งมีวีดีโอประกอบชัดเจน และยังมีกิจกรรมให้ทำเป็นการวัดความเป็นครูจริงๆ


                     Friends:   


                  แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา มีคุยกันบ้างบางเวลา


                   Self:  

                  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีการจดบันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน