วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนประจำวันศุกร์ ที่ 22 เมษายน 2559

Lesson 8




 Knowledge:


การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรม เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ






  1. เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน 
  2. ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด  
  3. เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)

การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา

  • เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด 
  • เกิดผลดีในระยะยาว 
  • เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียงทักษะทางวิชาการ
  • แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล 
  •     (Individualized Education Program; IEP)
  • โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน


การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
  • การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน (Activity of Daily Living Training)
  • การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
  • การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)

การบำบัดทางเลือก



  • การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
  • ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
  • ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
  • การฝังเข็ม (Acupuncture)
  • การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)




  • การสื่อความหมายทดแทน (Augmentative and Alternative Communication ; AAC)



  • การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies) 
  • โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS) 
  • เครื่องโอภา (Communication Devices) 
  • โปรแกรมปราศรัย



  • Picture Exchange Communication System (PECS)













    บทบาทของครู




    1.    ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
    2. ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
    3. ให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
    4. ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง 

















    การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ



    • ทักษะทางสังคม







    • เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการพ่อแม่
    • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข


    กิจกรรมการเล่น






    • การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
    • เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
    • ในช่วงแรกๆ เด็กจะไม่มองเด็กคนอื่นเป็นเพื่อน  แต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสำรวจ สัมผัส ผลัก ดึง



    การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง


    1. วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
    2. คำนึงถึงเด็กทุกๆคน
    3. ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่มเล็กๆ 2-4 คน
    4. เด็กปกติทำหน้าที่เหมือน “ครู” ให้เด็กพิเศษ



    ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น






    1. อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
    2. ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
    3. ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
    4. เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
    5. ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม

      • ทักษะภาษา
      การวัดความสามารถทางภาษา
      • เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
      • ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
      • ถามหาสิ่งต่างๆไหม
      • บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
      • ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
      การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่


      • ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
      • ห้ามบอกเด็กว่า  “พูดช้าๆ”   “ตามสบาย”   “คิดก่อนพูด”
      • อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
      • อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
      • ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
      • เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน








      ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย







    1. การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา
    2. ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด
    3. ให้เวลาเด็กได้พูด
    4. คอยให้เด็กตอบ (ชี้แนะหากจำเป็น)
    5. เป็นผู้ฟังที่ดีและโตต้อบอย่างฉับไว (ครูไม่พูดมากเกินไป)
    6. เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว










        • ทักษะการช่วยเหลือตนเอง

        การสร้างความอิสระ










      • เด็กอยากช่วยเหลือตนเอง
      • อยากทำงานตามความสามารถ
      • เด็กเลียนแบบการช่วยเหลือตนเองจากเพื่อน เด็กที่โตกว่า และผู้ใหญ่


        • หัดให้เด็กทำเอง



        • ไม่ช่วยเหลือเกินความจำเป็น (ใจแข็ง)
        • ผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไป
        • ทำให้แม้กระทั่งสิ่งที่เด็กสามารถทำได้เองหากให้เวลาเขาทำ
        • “ หนูทำช้า ”  “ หนูยังทำไม่ได้ ” 



          • จะช่วยเมื่อไหร่





            1. เด็กก็มีบางวันที่ไม่อยากทำอะไร , หงุดหงิด , เบื่อ , ไม่ค่อยสบาย
            2. หลายครั้งเด็กจะขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว
            3. เด็กรู้สึกว่ายังมีผู้ใหญ่ที่พึ่งได้ แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือเฉพาะสิ่งที่เด็กต้องการ
            4. มักช่วยเด็กในช่วงกิจกรรม

              การควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก
              • การกรอกน้ำ ตวงน้ำ
              • ต่อบล็อก
              • ศิลปะ
              • มุมบ้าน
              • ช่วยเหลือตนเอง


              ตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับเด็กพิเศษ



            1. ลูกปัดไม้ขนาดใหญ่
            2. รูปต่อที่มีจำนวนชิ้นไม่มาก








              • การวางแผนการเตรียมพื้นฐานทางวิชาการ




                  




                1. จัดกลุ่มเด็ก
                2. เริ่มต้นเรียนรู้โดยใช้ช่วงเวลาสั้นๆ
                3. ให้งานเด็กแต่ละคนอย่างชัดเจนว่าต้องทำที่ไหน
                4. ติดชื่อเด็กตามที่นั่ง
                5. ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
                6. บันทึกว่าเด็กชอบอะไรที่สุด
                7. รู้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนงาน
                8. มีอุปกรณ์ไว้สับเปลี่ยนใกล้มือ
                9. เตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนเด็กมาถึง




                Apply:   


                Evaluation: 

                  Teacher :  

                เข้าสอนตรงเวลา ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย

                 Friends:   

                แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา


                 Self:  

                เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีการจดบันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน





                ไม่มีความคิดเห็น:

                แสดงความคิดเห็น